กางเต๊นท์นอน ณ ลานกางเต๊นท์ลำตะคอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ทริปนี้ เราตั้งใจจะไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ที่ไหนสักแห่งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ...

เราเลือกเดินทางในวันธรรมดา และไม่ได้อยู่ในช่วงเทศกาล  นักท่องเที่ยวจึงไม่มากเท่าไหร่ ดูบางตา อาจจะเป็นเพราะช่วงสถานการณ์โควิด จึงทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวลดลง มองในแง่ดี ก็คือ ผู้คนไม่แออัด ได้กางเต๊นท์สบายๆ 

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่ที่ถูกเลือกเป็นอันดับต้นๆ เพราะอากาศดี ต้นไม้เยอะ การเดินทางครั้งนี้ ไปแบบเรียบง่ายแค่ 2 คน สัมภาระไม่มีอะไรมาก นอกจากเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวแล้ว มีเพิ่มเติม คือ หมอนและผ้าห่ม ส่วนเต๊นท์และอุปกรณ์ เราสามารถเช่าใช้งานที่สำนักงานฯ ได้

  เมื่อถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว ให้ตรงไปลงทะเบียนที่สำนักงานฯ ก่อน แจ้งชื่อและจำนวนคนเข้าพักให้เรียบร้อย ถึงจะเข้ากางเต๊นท์ได้

ร้านสวัสดิการลำตะคอง

  ร้านสวัสดิการ ขายสิ่งของเครื่องใช้ เช่น สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู มาม่า ฯลฯ

  เช่าเต๊นท์และอุปกรณ์เกี่ยวกับเต๊นท์ ให้ติดต่อลงทะเบียนที่สำนักงานฯ

  ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำแยกชาย-หญิง ถ้าไปวันธรรมดา คนจะใช้น้อย ความสกปรกก็จะน้อยตาม

ถ้าจะอาบน้ำในช่วงหน้าหนาว แนะนำให้อาบน้ำตั้งแต่สี่โมงเย็น เพราะน้ำเย็นมากกกกก

แต่อาบแล้วก็อุ่นๆ สดชื่น สบายตัว น้ำแรงใช้ได้  ห้องอาบน้ำ กว้างมีที่แขวนผ้าทุกห้อง มีที่ล้างจานข้างสำนักงานฯ

  กิจกรรมในช่วงหัวค่ำ หากต้องการส่องสัตว์ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานฯ (มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย) เมื่อถึงเวลานัดหมาย ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไปส่องสัตว์ แต่หากใครไม่อยากไป ก็อยู่เต๊นท์ นั่งชมดาว บางเวลาก็จะมีสัตว์บางชนิดมาเดินอวดโฉมให้เราได้เห็นใกล้ๆ เช่น น้องกวาง น้องเม่น ^^

  เมื่อถึงเวลาสี่ทุ่ม เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ก็จะประกาศให้งดใช้เสียงทั้งหมด ให้ปิดไฟ เพื่อไม่ให้รบกวนเต๊นท์อื่น จะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจทุกเต๊นท์ให้เก็บของให้ดี ไม่งั้นสัตว์จะมาคุ้ยกิน อาจจะเผลอกินถุงพลาสติกเข้าไป

  ห้าทุ่มก็จะปิดไฟถนน แต่จะเปิดไฟที่สำนักงานฯ กับห้องน้ำไว้ตลอด รับรองความปลอดภัย

สำคัญคือ  สิ่งของทุกอย่างให้เก็บให้ดี และให้ระวังตัวตลอด อย่าเผลอไม่งั้นจะโดนลิงขโมยขนมเหมือนเรา

อากาศตอนกลางคืน จะหนาวเย็นมาก แนะนำให้ใส่ถุงเท้านอน จะเพิ่มความอุ่นให้ร่างกาย หลับสบายทั้งคืน

รุ่งเช้าเราเก็บเต๊นท์และสิ่งของต่างๆ ไปคืนที่สำนักงานฯ และออกเดินทางเพื่อกลับกรุงเทพฯ 

ระหว่างทางเราแวะพักกินข้าวที่ร้านนี้  อยู่เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปราจีนบุรี เลยวงเวียนนเรศวร ประมาน 500 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ

ใครที่ชอบกินเนื้อ ร้านนี้มีเมนูที่น่าสนใจหลายรายการ ร้านเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง หยุดทุกวันจันทร์

มื้อนี้อร่อยมาก ... กับข้าวบ้านๆ แต่รสชาติดีเยี่ยม 

จากนั้นเราเดินทางต่อ แวะตลาดหนองชะอม เพื่อซื้อของฝาก

ผลไม้มีให้เลือกซื้อหลายชนิด อุดหนุนผลไม้ไทยกันเถอะ

หลังจากได้ของฝากเรียบร้อยแล้ว เราเดินทางต่อกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

สำหรับค่าใช้จ่ายในทริปนี้ 

เติมน้ำมัน 500
ค่าเข้าอุทยาน (รถ) 50
ค่าเข้าอุทยาน (2 คน) 80
ซื้อของทางขึ้น (น้ำแข็ง โซดา ถ่าน ส้ม) 223 (คนละครึ่ง 111.50)
ค่านอนเต๊นท์ (2คน) 60
แผ่นรองนอน 2 ผืน 40
เช่าเต๊นท์ 225
ผ้าพลาสติกปูพื้น 40
เช่าเตา 30
เช่าเสื่อ 30
กินข้าวอุทยาน (กลางวัน) 200
ค่ากาแฟอุทยาน 80
ค่ากาแฟเช้า + ขนมปัง 130
ค่าอาหารกลางวัน (2) 230 (คนละครึ่ง 115)
ซื้อของฝาก 450
ผัดเนื้อ+เนื้อย่าง (เย็นวันแรก) 300
ตะแกรง+หม้อ+ทัพพี 220

งบไม่เกิน 3,000.- บาท
  
จบทริปนี้ด้วยความสุข ได้พักผ่อนร่างกาย ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้สัมผัสอากาศเย็นๆ และกินอาหารอร่อยระหว่างทาง

 พร้อมด้วยหน้ากากอนามัย เจล แอลกอฮอล์